16 วิธีจัดการกับวันแย่ๆ ให้รู้สึกดีขึ้น ไม่จมดิ่งกับปัญหา

วิธีจัดการกับวันแย่ๆ

วิธีจัดการกับวันแย่ๆ ให้รู้สึกดีขึ้นนั้นมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน การที่เราต้องพบเจอกับเหตุการณ์หลากหลาย รวมไปถึงผู้คนมากมาย ทำให้อารมณ์ที่มีต่อสิ่งเหล่านั้นเป็นไปได้ทั้งแบบบวกและแบบลบ ซึ่งก็ต้องมีดีมั่งแย่มั่งปนกันไป เป็นธรรมดา ในวันที่เรารู้สึกดี แฮปปี้ มันก็เป็นเรื่องดีที่ควรจะเกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ถ้าในวันที่เรารู้สึกแย่ เป็น Bad day สำหรับเราล่ะ เราจะจัดการกับความคิดเรายังไง เพื่อให้มันยังคงอยู่ในเส้นมาตรฐาน ไม่ดำดิ่งกับความรู้สึกแย่จนเกินไป

ดูแลสุขภาพชีวิตในทุกด้านกับ Summerteas

และนี่ก็คือ 16 วิธีจัดการกับวันแย่ๆ ได้

การจัดการกับวันที่เรารู้สึกแย่ให้ดีขึ้นมาได้นั้นมีหลานวิธีด้วยกัน เรารวบรวมมาให้แล้วตามนี้เลย

1.แต่งเรื่องสนุกๆ เสริมสร้างจินตนาการ

แต่งเรื่องสนุก

ไหนๆ ในแต่ละวันก็มีแต่เรื่องเครียดๆ ละ งั้นเรามาลองแต่งนิยายแฟนตาซีที่มีเราเป็นตัวเอก แบบสนุกๆ ดูกันบ้างก็ดีนะ เช่น เราอาจจะแต่งเรื่องว่าเราเป็นตัวละครในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้เป็นแม่มดผู้มีมนต์วิเศษ สามารถขี่ไม้กวาดเดินทางไปไหนก็ได้ สามารถเสกคาถาได้ เป็นตัวละครสุดสวยที่มีแต่หนุ่มๆ เดินตาม แล้วก็ฉลาดอย่างไม่น่าเชื่อเรียนรู้อะไรได้อย่างรวดเร็วและรู้ว่าควรจะจัดการกับชีวิตยังไง จะไปเอาชนะศัตรูและสร้างความสำเร็จออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง ดีไม่ดี เนื้อเรื่องที่เราแต่งอาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยมให้เรากลายเป็นนักเขียนชื่อดังก็ได้นะ

2.ให้รางวัลตัวเองเป็นมื้ออาหารดีๆ สักมื้อนึง

20veganshops

ถ้าเรากำลังรู้สึกแย่มากๆ เรามาลองใช้วิธีหาอาหารดีๆให้ตัวเองทานสักมื้อดูดีมั้ย อาจจะเป็นข้าวหน้าปลาดิบรวมที่อุดมไปด้วย ปลาหลากหลายเนื้อเด้งๆ สดๆ หรือจะเป็นข้าวและกับข้าวจากร้านอาหารชื่อดัง กุ้งแม่น้ำย่าง ปลากระพงทอดราดน้ำปลา ต้มยำทะเล หรือเราจะเลือกเป็นเมนูเสต็กและสลัดจานใหญ่ที่อุดมไปด้วยสารอาหารดีๆ หรือจะเป็นเมนูอาหารวีแกนที่นอกจากจะดีกับสุขภาพแล้ว ยังรักษ์โลกอีกต่างหาก ก็ช่วยให้เรามีชีวิตชีวาขึ้นจากวันแย่ๆ ของเราก็ได้นะ

3.แต่งบ้านให้น่าอยู่

แต่งบ้านให้น่าอยู่

อยากกาดอกจันข้อนี้ตัวโตๆ อย่างช่วงนี้เราก็ใช้เวลาอยู่กับบ้านกันเยอะขึ้น การที่เราลุกขึ้นมาจัดบ้าน กวาดเก็บบ้านให้เรียบร้อยบ้าง ก็ช่วยทำให้สภาพแวดล้อมที่เราอยู่ดูสดใสขึ้น เป็นระเบียบขึ้น และแน่นอนว่ามันช่วยเพิ่มพลังงานบวก ส่งผลให้เราอารมณ์ดีขึ้นได้ด้วยนะ

เราทำบ่อยเลย มันจะมีบางวันที่รู้สึกแย่ ไม่อยากจะทำอะไร พอเรามองไปที่โซนที่มันรกรุงรังก็ได้แต่คิดว่า ทำไมตรงนั้นไม่น่ามองเลย แล้วก็ยิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก อยากจะให้มุมนั้นมันเป็นระเบียบกว่านี้จัง แต่ถ้าเราเอาแต่คิดอย่างเดียวมันก็เป็นไปไม่ได้เนอะ เพราะฉะนั้นวันแบบนี้แหละที่ต้องลุกขึ้นมาจัดการกับพื้นที่บ้านให้มันสวยสะอาดตาขึ้น มุมที่ควรเริ่มเก็บเป็นที่แรกก็คือ ห้องนอน ตามมาด้วยมุมทำงาน และมุมนั่งเล่น พอจัดเสร็จแล้วอารมณ์จะดีขึ้นในทันทีเลยล่ะ

4.ซื้อต้นไม้มาจัดสวน

วิธีจัดการกับวันแย่ๆ

การที่เราใช้ชีวิตแบบสังคมเมืองมันทำให้เราถอยห่างจากธรรมชาติมากขึ้นทุกวันๆ แล้วมันก็ยิ่งเพิ่มความเครียดให้กับเราด้วย เพราะจริงๆ แล้วคนเราต่างก็ต้องการพื้นที่สีเขียวให้มันมาอยู่ในชีวิตบ้าง ทีนี้ในวันแย่ๆ ของเรา การลองไปเลือกซื้อต้นไม้มาจัดสวน หรืออาจจะจัดเป็นมุมสีเขียวในห้องนั่งเล่น ก็ทำให้เราเปลี่ยนโหมดอารมณ์ได้ดีเหมือนกัน

ล่าสุดเราก็ไปแวะซื้อต้นมอนสเตร่า ซานาดู เฟิร์น แล้วก็อีกหลายต้นเลยเอามาจัดสวนเล็กๆ แล้วก็เอามาวางในห้องนั่งเล่น งานนี้เราไม่ได้ทำคนเดียวนะ เราชวนแม่มาช่วยจัดสวนด้วยกัน แม่เพลินมากเลยแหละ เราเห็นแม่ดูเครียดๆ มันอาจจะเป็น Bad Day ของแม่ ก็เลยพาเค้าไปทำกิจกรรมอื่นบ้างที่มันสนุกกว่าการเอาแต่เล่นมือถืออ่ะนะ ผลลัพธ์จากการแต่งสวน ได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้าน ก็คือ บรรยากาศในบ้านดูสดใสขึ้นทันที มองไปทางไหนก็เจอความร่มรื่นของต้นไม้ ได้รดน้ำดูแลธรรมชาติบ้างก็แฮปปี้ขึ้นเลยแหละ

5.กางสระว่ายน้ำเป่าลมมาเล่นในบ้าน

วิธีจัดการกับวันแย่ๆ

อากาศบ้านเรามันร้อน จนเข้าขั้นร้อนมาก บางทีสภาพอากาศก็ส่งผลกับอารมณ์ของเราในแต่ละวันได้เช่นกัน การที่เราได้หาวิธีคลายร้อนแบบสนุกๆ ก็ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นผิดหูผิดตาเลยล่ะ และวิธีที่จะแนะนำ สำหรับคนที่มีพื้นที่บ้านสักนิดก็คือ ซื้อสระเป่าลมมาทำเป็นสระน้ำเอาไว้แช่ให้อารมณ์ดีขึ้น เชื่อไหมว่าความเย็นของน้ำเนี่ย มันช่วยให้เราผ่อนคลายและลืมเรื่องแย่ๆ ที่มีอยู่เต็มหัวไปได้ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง รู้เรื่อง

6.เอางานที่ไม่สำคัญออกจาก To do list

แล้วมันจะผ่านไป

สิ่งที่เราต้องทำในแต่ละวันบางวันมันก็มีเยอะเกินที่เราจะจัดการให้หมดได้ ถ้าเราตั้งสติให้ดี แล้วสำรวจดูว่างานไหนคือสิ่งสำคัญกับเรามากที่สุด อันไหนไม่สำคัญ แล้วเลือกเอางานที่ไม่สำคัญออกไปจากตารางงานเราบ้าง เราจะรู้สึกเบาใจขึ้นนะ อย่างน้อยๆ ก็จะมีงานที่ทำเสร็จแน่ๆ และมีงานที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ทำให้เรามีเวลาเพิ่มเอาไว้ดูแลตัวเองบ้างก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยนะ

7.ออกไปเดินเล่น

เดินเล่น

ถ้าเรากำลังรู้สึกแย่ ไม่ว่าจะกับเรื่องไหนก็ตาม การออกจากบ้าน ไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศก็ช่วยให้เราเปลี่ยนโหมดความรู้สึกได้ ได้ออกไปเจอสภาพแวดล้อมใหม่ ได้รับลมและแสงแดด ได้เปลี่ยนกิจกรรม ก็ช่วยให้สมองเราไปโฟกัสในเรื่องอื่นๆที่เจอแทนที่เรื่องแย่ๆ ไป พอเราไม่คิด เราก็จะไม่เครียด ถ้ายังรู้สึกไม่ดีขึ้น ให้เดินต่อ ยาวๆ ไปค่ะ เดินชมนกชมไม้ ตามทางไปเรื่อยๆ จนกว่าอารมณ์จะดีขึ้นนั่นล่ะ

8.ฉีดน้ำหอมให้ตัวหอม

เวลาที่เรารู้สึกแย่ ไม่สดชื่นเนี่ย กลิ่นหอมจะช่วยให้เราผ่อนคลายขึ้นได้ เราลองเลือกน้ำหอมกลิ่นที่เราชอบ หรือเหมาะกับอารมณ์เราตอนนี้มาใช้ดูสิ พอตัวเราหอมเราจะรู้สึกมีพลัง มีชีวิตชีวามากขึ้น ช่วยเพิ่มแรงในการทำงานได้อีกทางหนึ่งเลยนะ

9.ไป Hangout กับคนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ

ไป hangout กับเพื่อน

การมีเพื่อนเป็นคนที่เราชื่นชม รู้สึกว่าเค้าเก่งและมีแนวคิดที่ดี การได้ไปใช้เวลากับเค้า เช่น พูดคุย ทานข้าวกัน แลกเปลี่ยนความเห็นกันก็ช่วยให้เราได้รับกำลังใจและสาระดี เอาไปใช้ในชีวิตต่อได้ ดีไม่ดีวันนั้นอาจจะกลายเป็นวันที่ดีที่สุดของเดือนเลยก็ได้นะ

10.เพิ่มเพื่อนเจ๋งๆ ที่ช่วยยกระดับชีวิตเราให้ดีขึ้น ความคิดนะ

พบเจอเพื่อนใหม่

ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลองหาเพื่อนใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาในชีวิตบ้าง โดยเฉพาะเพื่อนที่เรารู้สึกว่าเค้าเก่งดี น่าสนใจ แล้วเรารู้สึกว่าอยากเป็นให้ได้แบบเค้าบ้างนั่นล่ะ แล้วชีวิตเราจะค่อยๆ ดีขึ้นทีละเสต็ป เพราะเราต้องได้อิทธิพลจากเค้าแน่ๆ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ถ้ายังหาเพื่อนเจ๋งๆ แบบที่ว่าไม่ได้ อยากให้หาคนที่เราชื่นชมตาม Youtube, Podcast , Facebook แล้วฟังคอนเท้นท์จากเค้าเป็นประจำก็ได้ แล้วเอาสิ่งที่เค้าบอกมาพยายามปรับใช้ เชื่อสิว่าเราจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

11.เอาเรื่องที่ไม่ดี ไม่มีสาระออกจากหัวไปบ้าง

ลบเรื่องไม่ดีทิ้งไป

เชื่อไหมว่าถ้าเราคิดแต่ว่าชีวิตเราแย่ๆ เรื่องไม่ดีจะตามมาอีกเพียบ แต่ถ้าเราคิดแต่เรื่องบวก เรื่องสนุกๆ ที่ทำให้ชีวิตมีความหวัง มันก็จะส่งผลไปถึงการกระทำของเราได้แน่ๆ เพราะฉะนั้นการที่เราเอาเรื่องแย่ๆ ไม่มีสาระออกไปจากหัวบ้าง ลืมๆ มันไปซะบ้าง จิตใจเราจะเป็นสุขขึ้นอย่างแน่นอน เราอาจจะเขียนเรื่องแย่ๆ ในหัวออกมาใส่กระดาษ จากนั้นก็ขยำทิ้งไปเลย แล้วก็ทิ้งความคิดนั่นออกไปจากหัวด้วย เหมือนกดปุ่ม Delete น่ะ แล้วก็มาเริ่มต้นกับความคิดดีๆ ใหม่ๆ ใส่เข้ามาแทน รับรองว่าดี

12.เขียน 10 เรื่องที่เราชอบเกี่ยวกับตัวเอง

วิธีนี้ก็จะคล้ายๆ กับการเขียนขอบคุณตัวเอง ก็คือการเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองทีละนิด พยายามบอกตัวเราเองว่าเรามีดีเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งมันก็จะส่งผลไปถึงเรื่องของความมั่นใจ และทัศนคติที่เรามีต่อตัวเองนั่นแหละ

เรื่องที่ชอบเกี่ยวกับตัวเองของเราจะเป็น ชอบที่เป็นคนขยันอ่านหนังสือ เป็นคนที่ชอบพัฒนาเรื่องภาษาอังกฤษ ชอบที่หาเงินเก่ง เป็นต้น ไม่อวยตัวเองแล้วจะอวยใครคะ จริงป่ะ

13.ไปนวด

ไปนวด

การไปนวดเนี่ยมันผ่อนคลายอารมณ์ดีมากๆ นอกจากจะช่วยคลายอารมณ์แล้วยังช่วยคลายเส้นที่ตึงได้ดีมากๆ ได้ปลดปล่อยความเครียดออกจากเส้นประสาทไปที่อื่น ช่วงที่นวดเนี่ย จะรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลง ทำให้เราได้มีสติคิดทบทวนอะไรๆ ได้ดีขึ้น และมองเห็นอะไรชัดขึ้น เรื่องที่กำลังรู้สึกไม่ดีอยู่เราอาจจะได้เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง และปล่อยวางมันลงได้ และที่เป็นบ่อยระหว่างนวดคือ เพลินจนหลับไปเลย ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว

14.ไปสวนสาธารณะแล้วมองดูผู้คน

ไปสวนสาธารณะ

เวลาที่เราเครียดๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี การไปสวนสาธารณะ ได้เห็นพื้นที่โล่งๆ กว้างๆ ได้เจอพื้นที่สีเขียว ชมนกชมไม้ ก็ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ได้ไปสูดอากาศและผ่อนคลายความคิดบ้างก็ดีไม่น้อยเลย ได้มองคนเดิน วิ่งผ่านไปมา บางคนจูงลูกมา บางคนจูงหมามา ก็ทำให้เราได้เห็นชีวิตในอีกมุมนึงที่ไม่จำเป็นต้องแบกความเครียดหรือความผิดหวังไว้กับตัวนานๆ เลย และนี่ก็เป็นเหตุผลที่บ้านเราน่าจะมีสวนสาธารณะให้มากขึ้นนะ

15.เลิกเล่นโซเชียล ปิดมือถือ

ปิดมือถือ

รู้หรือเปล่าว่าโซเชียลมีเดีย ค่อนข้างมีอิทธิพลกับสุขภาพจิตของเราได้อย่างร้ายแรงเลย ถ้าในวันที่แย่แล้วเราก็เปิดโซเชี่ยลดูอีก มันอาจจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมสภาพจิตใจให้มันแย่ลงไปอีก ถ้าไม่คุมตัวเองให้ดี เพราะฉะนั้น วางมือถือลง ปิดโซเชียล แล้วทำอย่างอื่นไปก่อนจะดีกว่ามากนะ

16.ทำ Bad Day ของเรา ให้เป็น Good Day สำหรับใครบางคน

ช่วยเหลือคนอื่น

เชื่อไหมว่าในวันที่เรารู้สึกแย่ จะมีบางคนที่เค้าแย่กว่าเราหลายเท่า เค้าอาจจะเป็นคนที่ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีเงินซื้อข้าว หรือเข็นรถมาขายของแต่ยังขายไม่ได้เลยแม้แต่บาทเดียว ความรู้สึกเค้าคงแย่มากเหมือนกัน ทีนี้ถ้าเราคิดว่าวันนี้คือ Bad Day ของเราแล้วล่ะก็ ลองหันไปดูพวกเค้าบ้างสิ เราจะเห็นว่าเรานั้นโชคดีเหลือเกิน ที่ยังมีอะไรๆในชีวิตพร้อมหลายอย่าง เพราะฉะนั้น ถ้าเราเปลี่ยนวัน Bad Day ของเรา ให้กลายมาเป็น Good Day สำหรับคนที่ด้อยโอกาสดูบ้าง ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย เราอาจจะซื้อข้าวให้เค้ากิน แบ่งปันเงินที่มีในกระเป๋าให้เค้าบ้าง ช่วยอุดหนุนสินค้าจากลุงรถเข็นที่ต้องเดินตากแดดมาขายบ้าง ก็ทำให้วันนั้นกลายเป็นวันดีๆ ที่น่าจดจำสำหรับเค้าเหมือนกันนะ นอกจากนั้นแล้ว ตัวเราเองยังรู้สึกมีคุณค่าขึ้นด้วยโดยที่ไม่ต้องออกแรงทำอะไรเยอะเลย และความรู้สึกนี้จะอยู่กับเราตลอดไป

บทส่งท้าย

วันไหนที่เราเจอเรื่องแย่ๆ มา การได้ผ่อนคลายตัวเองบ้าง เปลี่ยนกิจกรรมที่ทำบ้าง จะช่วยให้เราค่อยๆ รู้สึกดีขึ้น และที่สำคัญคือเราต้องพยายามปลดปล่อยความเครียด ความทุกข์ใจออกไปบ้าง อย่าไปยึดติดกับมันนานจนเกินไป เพราะมันจะส่งผลที่ไม่ดีกับสุขภาพจิตของเราเองในระยะยาว พยายามเปลี่ยนนิสัยให้หันไปโฟกัสในเรื่องสนุกๆ แทน ก็ช่วยปลอบประโลมจิตเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

และสิ่งที่ดียิ่งกว่าเรื่องอะไรเลยก็คือ การหยิบยื่นโอกาสที่เรามี แบ่งไปหาคนที่แย่กว่าเราในสังคมดูบ้าง เราจะมีความสุขขึ้นเยอะเลยล่ะ ไม่เชื่อก็ลองดูสิ

https://pin.it/uFPa6W3