วิธีทําให้หน้าใสแบบเกาหลี ง่ายๆ ทำเองได้ที่บ้าน ไม่พึ่งหมอ

อยากผิวสวยหน้าใส ดูดีแบบสาวเกาหลีจะต้องใช้ครีมอะไรดีนะ แล้วจะมี วิธีทําให้หน้าใสแบบเกาหลี แบบไหนได้บ้าง ต้องเป็นครีมหน้าใสแบบเกาหลีหรือเปล่า หรือเซรั่มบำรุงตัวไหนใช้แล้วดี นับว่าเป็นโจทย์ที่สาว ๆ ทำการบ้านอยู่เสมอ เมื่อเจอใครบอกว่าอันนั้นดี อันนี้เลิศ! ก็ดูน่าใช้ไปหมด แล้วครีมหน้าใสแบบเกาหลีตัวไหนที่จะเข้ากับผิวหน้าเราล่ะ จะลองหมดทุกตัวก็คงจะไม่ไหวแน่ ถ้าอย่างนั้นมาเลือกครีมที่เหมาะกับผิวหน้าดีกว่า เพราะผิวคนเราไม่เหมือนกันจึงต้องใช้ครีมที่ต่างกันเพื่อปรับสมดุลของผิวแต่ละคนให้ผิวหน้าดูดีอย่างต่อเนื่อง

วิธีทําให้หน้าใสแบบเกาหลี ง่ายๆ

สาวผิวธรรมดา

นับว่าเป็นผู้โชคดี เพราะผิวธรรมดาคือ ผิวที่ไม่มัน ไม่แห้ง รูขุมขนเล็กจึงดูเรียบเนียน เพราะมีการผลิตน้ำมันที่สมดุล จึงไม่ทำให้ผิวมันหรือแห้งจนเกินไป นับเป็นโชคดีของสาว ๆ กลุ่มนี้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาผิว และสามารถใช้สกินแคร์ประเภทไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อโลชั่น ครีม เจล หรือออยล์ โดยปรับเปลี่ยนตามสภาพอากาศเพื่อความสบายผิว อย่างหน้าร้อนก็ใช้สกินแคร์เนื้อเจลหรือน้ำ เพื่อความเบาสบายผิว ส่วนหน้าหนาวหรือสาว ๆ ที่ต้องทำงานในห้องแอร์เป็นประจำก็เพิ่มความเข้มข้นในการใช้สกินแคร์ด้วยการใช้แบบเนื้อครีมหรือออยล์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

สาวผิวแห้ง

มักจะกังวลกับผิวหน้าที่ลอกเป็นขุย แห้ง ตึง สัมผัสหยาบกร้าน เพราะผิวผลิตน้ำมันได้น้อยกว่าผิวแบบอื่น ๆ ทำให้ผิวไม่ค่อยแข็งแรงและเก็บน้ำไว้ในผิวไม่ค่อยได้ ควรใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวเป็นอย่างมากและมีส่วนผสมของเซราไมด์ (Ceramides) โดยควรเลือกตัวบำรุงผิวชนิดเนื้อครีมเข้มข้น ออยล์ หรือบาล์ม เพื่อช่วยในการเคลือบผิวและกักเก็บความชุ่มชื้น เพื่อสร้างสมดุลให้กับผิว และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่มีแอลกอฮอลล์ ครีมกันแดดเนื้อซิลิโคนและไยไหม หรือแม้แต่สครับประเภทต่าง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งและลอกเป็นขุย

สาวผิวมัน

คือ จะมีความมันทั่วใบหน้า จนเป็นปัญหาของหลาย ๆ คน เพราะการผลิตน้ำมันของผิวที่มากเกินไปก่อให้เกิดปัญหาผิวตามมามากมาย เมื่อรูขุมขนกว้าง สิ่งสกปรกก็เข้าไปอุดตันได้ง่ายจนเกิดเป็นสิวอักเสบ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการควบคุมปริมาณน้ำมันบนผิวให้สมดุล จึงควรใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อเบา อย่างเนื้อชนิดน้ำ เซรั่ม หรือเจล เพื่อลดการอุดตันของผิว และใช้โทนเนอร์ทุกครั้งหลังล้างหน้าจะช่วยปรับสภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น และล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ Oil Free หรือ Oil Control ในการทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อลดการผลิตน้ำมันบนผิวหน้า ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงสกินแคร์ประเภทเนื้อครีมเข้มข้นและน้ำมันสาเหตุของการทำให้ผิวหน้ามันยิ่งขึ้นและเกิดการอุดตันของสิว

สาวผิวผสม

คือ ผิวหน้าที่มีทั้งผิวมันและผิวแห้ง พบมากในบรรดาสาว ๆ ที่อยู่ในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเรา แล้วผสมยังไงหลายคนคงสงสัยหรือไม่ทราบมาก่อนว่าการที่เรามีผิวหน้าทั้งมันทั้งแห้งนั้นก็คือผิวผสมนั่นเอง โดยผิวบริเวณส่วนกลางที่เรียกว่า T-ZONE ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง ผิวบริเวณนี้จะมีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่าบริเวณอื่น ๆ จึงทำให้ผิวมันและเป็นสิวได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันผิวบริเวณรอบดวงตา และแก้มมักจะผลิตน้ำมันได้น้อยและแห้ง หรือลอกเป็นขุยในบางครั้ง สกินแคร์ที่เหมาะกับผิวประเภทนี้จึงควรเป็นเจลเนื้อใส เพราะจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมปรับสมดุลความมันในบางส่วนของผิวหน้า

เมื่อสาว ๆ รู้แล้วว่าตัวเองมีผิวหน้าแบบไหนก็สามารถเลือกครีมที่เหมาะกับผิว เพื่อให้มีผิวหน้าสวยสดใสสไตล์เกาหลี เป๊ะ ปังจนใคร ๆ ก็ทักว่าผิวเธอ young ใส ดูเด็กจริงๆ ^^

เพราะผิวแพ้ง่าย ใช้ครีมปังๆ ก็ยังพังตลอด!

ส่วนผสม ครีมหน้าใสแบบเกาหลี ที่อาจทำให้ผิวแพ้

นอกจากสาว ๆ ที่มีผิวหน้าทั้ง 4 แบบข้างต้นแล้ว ยังมีสาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายที่ไม่ว่าจะใช้สกินแคร์แบบไหนที่เขาว่าดีก็ไม่ได้ดั่งใจสักที แถมบางครั้งยังเห่อจนต้องรักษาผิวกันใหม่ แต่ไม่ต้องหนักใจถ้าเรารู้ว่าส่วนผสมชนิดไหนที่ไวต่อผิวแพ้ง่ายก็หลีกเลี่ยงไว้ก่อน เพราะผิวหน้าเราไม่ควรต้องเสี่ยง

เรตินอล (Retinol)

สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลนั้นหลัก ๆ คือการช่วยยับยั้งสิว กระตุ้นคอลลาเจน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ แต่ก็เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้สาว ๆ ผิวแพ้ง่ายเกิดผื่นแดงและลอกเป็นขุย จึงควรหลีกเลี่ยงและใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของบากูชิล (Bakuchiol) แทน เพราะเป็นเรตินอลจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหรือผื่นแพ้

กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)

ช่วยลดการเกิดสิวหัวดำและหัวขาว พร้อมลดการเกิดสิวอุดตันได้ดี แต่ไม่ดีสำหรับสาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและผิวแห้ง ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้วิชฮาเซล (Witch Hazel) เป็นพืชที่ช่วยในการกำจัดน้ำมันส่วนเกิน ลดแบคทีเรียและการเกิดสิวอุดตัน ดีต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

น้ำมันมะพร้าว

ใครจะคิดว่าน้ำมันมะพร้าวที่มาจากธรรมชาติจะมีผลต่อผิวแพ้ง่าย อีกทั้งน้ำมันมะพร้าวนั้นยังอุดมไปด้วยกรดไขมันและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวและบำรุงเส้นผมได้ดี แต่กลับเป็นตัวร้ายของสาวที่มีผิวแพ้ง่าย โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ผิวแห้งและไม่ค่อยเป็นสิวเพราะจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งส่วนผสมที่สามารถใช้แทนได้ก็คือโจโจ้บาออยล์ (Jojoba Oil) เพราะไม่มีส่วนผสมของไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และยังเหมาะกับสาว ๆ ที่เป็นสิวง่ายอีกด้วย

กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic Acid)

ส่วนผสมยอดฮิตทั้งในมอยส์เจอร์ไรเซอร์และลิปบาล์ม โดยจะไม่ได้มีผลทำให้ผิวแพ้ระคายเคืองโดยตรง แต่จะเป็นตัวกระตุ้นให้ครีมตัวอื่นๆ ดูดซึมเข้าสู่เพิ่มขึ้นจนนำไปสู่การระคายเคืองผิวสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย จึงควรใช้สควาเลน (Squalene) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติ ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดการระคายเคืองจากการใช้ร่วมกับครีมตัวอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีเซราไมด์-3 (Ceramide-3) มีฤทธิ์ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวของผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายได้อีกด้วย

เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)

ช่วยในเรื่องของการกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว และไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเพราะจะทำให้ผิวแห้ง และหยาบ ซึ่งสามารถใช้เป็นกรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) แทนเพราะสามารถบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้โดยตรง หรือจะเลือกใช้กรดโพลีไฮดรอกซี หรือ กรด PHA (Polyhydroxy Acids) ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ และมีความอ่อนโยนต่อผิว เหมาะกับผิวแพ้ง่ายเป็นที่สุด

กรดอัลฟาไฮดรอกซี หรือ AHA (Alpha Hydroxy Acid)

ส่วนผสมที่พบมากในโทนเนอร์และสกินแคร์ที่เน้นความกระจ่างใสและกระชับรูขุมขน ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย และยังส่งผลให้ผิวไวต่อแดดสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดาทั่วไป จึงควรเลี่ยงมาใช้กรดโพลีไฮดรอกซี หรือ กรด PHA (Polyhydroxy Acids) เพราะไม่ทำให้ผิวไวต่อแดด อ่อนโยนต่อผิว เนื่องจาก PHA มีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า AHA จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง

วิตามินอี

ส่วนผสมที่คุ้นหูคุ้นตามานาน เพราะอยู่ในสกินแคร์บำรุงผิวมากมาย แต่ทำให้เกิดอาการแพ้ในบางราย ส่งผลให้เกิดอาการระคายเคือง เป็นผื่นแดง คัน จนถึงไหม้ได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงมาใช้เมลาโทนิน (Melatonin) แทนจะดีกว่า เพราะมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้เช่นกัน แต่ต้องใช้จากสกินแคร์ ไม่ใช่ในยานอนหลับนะ ^^

ไฮโดรควิโนน

ส่วนผสมชนิดนี้หลายคนมองว่าปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่ามีผลต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายทำให้เกิดการระคายเคืองผิว เป็นผื่นแดง และแห้งยิ่งขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้เป็นกรดทรานเอกซามิก (Tranexamic acid) แทนเพราะสามารถช่วยในเรื่องของฝ้าแดดได้ดีโดยไม่ระคายเคืองผิว และยังช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินอีกด้วย
สาวเซนซิทีฟที่มีผิวแพ้ง่ายก็หาสกินแคร์บำรุงผิวได้ ด้วยการเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง และเปลี่ยนมาใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ให้ผลทดแทน เพียงเท่านี้สาว ๆ ผิวแพ้ง่ายก็หมดกังวลในการเลือกใช้ครีมได้เลย แล้วหันมาบำรุงให้เต็มที่เพื่อผิวหน้าใสอ่อนเยาว์อยู่เสมอ

เคล็ดลับหน้าใส แก้เคล็ดหน้าหมอง ให้เป็นสาวน่ามอง

ใคร ๆ ก็อยากขึ้นแท่นเป็นสาวหน้าใสแต่จะทำอย่างไรให้หน้าสดดูใสน่ามองได้ตลอด เรามีเคล็ดลับหน้าใสมาบอก… นอกจากจะใช้สกินแคร์บำรุงแล้ว ยังมีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ใกล้ตัวที่หากทำอย่างสม่ำเสมอ ผิวหน้าใส ๆ ก็จะอยู่กันไปตลอด เคล็ดลับง่าย ๆ ก็คือ

1. ดื่มน้ำบ่อยๆ

การดื่มน้ำบ่อยๆ จะช่วยให้หน้าใส ผิวชุ่มชื่นเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ยิ่งอากาศร้อนๆ หรืออยู่ในห้องแอร์ การจิบน้ำบ่อยๆ สำคัญต่อร่างกายมาก และนี่ยังเป็นเคล็ดลับของดาราเกาหลีหลาย ๆ คนอีกด้วย

2. ออกกำลังกายใบหน้า

รู้ไหมว่าดารานักร้องเกาหลีเขานิยมทำกัน โดยการพูดคำว่า “มา เม มี โม มู” ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ 10 ครั้ง จะเป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้า และปาก ช่วยเรื่องการกระชับใบหน้าให้ตึงอยู่เสมอ

3. นวดหน้าอย่างสม่ำเสมอ

เราสามารถนวดหน้าด้วยมือเปล่าของเราเองได้ทุกวัน โดยการนวดสวนทางกับแรงโน้มถ่วงขึ้นไป เพื่อยกกระชับผิวหน้าไม่ให้หย่อนคล้อย และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งและดูสดใส

4. มาล้างหน้าด้วยน้ำเย็นกัน

ต้องเป็นการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นเฉียบเท่านั้น โดยเอาน้ำแข็งแช่ลงในน้ำเปล่าสะอาด แล้วล้างหน้าด้วยน้ำเย็น แก้มของสาว ๆ ก็จะดูใสระเรื่อ ดูเป็นสาวหน้าใสแบบสาวเกาหลี อีกทั้งน้ำเย็น ๆ ยังช่วยป้องกันริ้วรอยได้อีกด้วย เพราะความเย็นจากน้ำแข็งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และทำให้สารอาหารต่าง ๆ ที่มากับเซลล์เลือด จะถูกมาส่งมาเลี้ยงผิวหน้าได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังกระตุ้นการเกิดคอลลาเจน ทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวใสสุขภาพดี

5. ครีมกันแดดสำคัญ ต้องใช้ทุกวัน

ก่อนออกจากบ้านทุกครั้งต้องทาครีมกันแดดเสมอ เพราะแสงแดดเป็นตัวการทำให้ใบหน้าของสาว ๆ คล้ำหมอง และเมื่อโดนแดดนาน ๆ ก็จะเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ครีมกันแดดจึงเป็นเหมือนเกราะป้องกันที่สำคัญในการช่วยปกป้องหน้าสวยให้แลดูใส

6. นมถั่วเหลืองกับหน้าใสๆ

เคล็ดลับจากวัตถุดิบธรรมชาติที่ทำได้ไม่ยาก เพียงใช้สำลีชุบน้ำนมถั่วเหลืองให้ชุ่ม แล้วนำมาแปะลงไปบนผิวหน้าแช่ไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง สารในน้ำนมถั่วเหลืองจะช่วยฟื้นฟูผิวให้เนียนใส นุ่มน่าสัมผัส

7. อบผิวด้วยไอน้ำเป็นประจำ

วิธีอบผิวด้วยไอน้ำจะช่วยทำให้รูขุมขนเปิด ทำให้ละอองน้ำอุ่นๆ เข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ในรูขุมขนได้ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น ผิวซ่อมแซมได้เร็วขึ้น และในระหว่างการอบไอน้ำ อาจใช้นิ้วมือแตะนวดเบา ๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายผิวได้มากขึ้น สุดท้ายนี้ อย่าลืมปิดรูขุมขนด้วยการชโลมน้ำเย็น แค่นี้ผิวก็เรียบเนียนแล้ว

บทส่งท้าย

การมีหน้าใสไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อม เพียงทำความรู้จักกับผิวของเราเอง แล้วเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม พร้อมหมั่นดูแลผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ แค่เท่านี้ก็ทำให้สาว ๆ มีหน้าใส ๆ สไตล์เกาหลีในแบบที่หลายคนปรารถนา

Summerteas ดูแลสุขภาพคนวัยทำงาน ให้แข็งแรง